วิธีการทดสอบความบิดเบือนของการสั่งสัญญาณ (THD+N)

องค์ประกอบของระบบเสียง อาจจะถูกบิดเบือน หรือถูกรบกวนด้วยสัญญาณแปลกปลอม (noise) มากจนเกินที่จะยอมรับได้ เนื่องจาก การติดตั้งระบบสายดินที่ไม่เหมาะสม เราสามารถตรวจวัดความสมบูรณ์ของสัญญาณที่ส่งมาจากภาคส่ง (input) มายังภาครับ (output) ได้ 

บนหน้าจอของ MR PRO สามารถเลือก โหมด Generator ได้จากเมนูหลัก คลิ๊กเลือก WAV และ เลือก SINE กำหนดค่า LVL เท่ากับ 0.00 dBu และ ความถี่ที่ 1000 Hz

ที่ตัวเครื่อง XL2 เลือก RMS/THD+N จาก เมนูหลัก กำหนด Z- weighting (เพื่อทำการวัดค่าการตอบสนองของสัญญาณโดยตรง ไม่มีถ่วงปรับแก้สัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น)  ให้เลือกค่า LVLRMS ให้เป็นหน่วย dBU และเลือก THDN เป็นหน่วย % 

สัญษณลักษณ์           แสดงว่าสัญญาณ input มีความสมดุลย์ (Balance) 

ค่า LVLRMS แสดงถึง แสดงให้รู้ว่า สัญญาณที่ส่งผ่านมาจากภาคส่ง (input) เพิ่มขึ้น หรือลดลงเท่าไหร่ หากค่า LVLRMS เท่ากับ 0 dBu   แสดงว่าสัญญาณ input ที่ส่งผ่านมา ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลง

 

ค่าความถี่ แสดงถึง ความถี่ของสัญญาณ input ที่ส่งเข้ามายังในระบบ และถูกตรวจจับด้วยเครื่อง XL2 ยกตัวอย่างเช่นในรูปเป็นสัญญาณ Sine ที่ความถี่ 1000 Hz

ค่า THND คือค่าที่แสดงว่าสัญญาณที่ได้รับโดยเครื่อง XL2 นั้น มีสัดส่วนที่ไม่ใช้สัญญาณ Sine wave ที่ 1000 Hz มากน้อยแค่ไหน  หรือพูดได้ว่า ค่า THND (Total sum of any Harmonics, Distorsings and Noise) คือค่าที่วัดสัญญาณแปลกปลอมที่เข้ามาภายในระบบระหว่างการทดสอบ เทียบกับสัญญาณจริงที่ส่งมาจากเครื่อง MR PRO

โดยค่า THND แสดงในรูปแบบของ % เช่น 0.0031% หมายความว่า มีสัญญาณแปลกปลอมแทรกเข้ามาในระบบ เพียง 0.0031% เท่านั้น

ดังนั้น เครื่อง XL2 ได้รับสัญญาณ Sine wave จากเครื่อง MR PRO ถึง 99.9969% (100%-0.0031%)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า