เครื่องวัดเสียงระดับ Class1 และ Class 2 แตกต่างกันอย่างไร

เป็นคำถามที่ถูกถามบ่อยมากครับว่าทำไมพี่ต้องซื้อเครื่องวัด Class 1 มันแพงกว่า Class 2 ตั้งเยอะ จำเป็นเหรอ และงานของพี่ใช้เครื่อง Class 2 แทนได้ไหม?? 

เหตุผลมีดังต่อไปนี้ครับ

เนื่องจากมาตรฐาน IEC61672-1:202 ได้กำหนดความสามารถในการยอมให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดระดับเสียงแต่ละครั้งของ ไมโครโฟน Class 1 และ Class 2 แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แล้วงานแบบไหนควรใช้เครื่องวัด  Class 1 หรือ Class 2 ผมเลยขอแนะนำดังต่อไปนี้ครับ

– สำหรับควบคุมเสียงรบกวน ตามกฏหมาย ขั้นต่ำต้องใช้ Class 2 แต่ถ้าเรื่องบานปลายจนขึ้นโรงขึ้นศาล จะต้องใช้ Class 1 ในการวัดเพื่อต่อสู้กันตามหลักฐานในชั้นศาลครับ


– การเฝ้าระวังเสียงรบกวนในสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐานทั่วโลก ทั้งในยุโรป และอเมริกา แนะนำให้ใช้เครื่องวัดขั้นต่ำ เป็น Class1 เลยครับ เพราะไมโครโฟน class 2 ไม่สามารถวัดระดับเสียงที่มีความดังน้อยๆ ได้ และที่ความถี่สูงหรือต่ำมากๆ ก็เพี้ยนเยอะ ทำให้ผลการวัดเสียงในสิ่งแวดล้อมเพี้ยนไปเยอะครับ


– งานแก้ไขปัญหาเสียงรบกวน การออกแบบอคูสติกภายในอาคาร หรือการติดตั้งระบบเครื่องขยายเสียง สามารถใช้ได้ทั้ง Class1 และ Class2 ในการตรวจวัดและวิเคราะห์ แต่หากต้องการความแม่นยำสูง ก็แนะนำเป็น Class 1 

สำหรับไมโครโฟนรุ่น 2230 (Class 1)  และ 4621 (Class 2) 
มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความถี่ที่ค่อนข้างดีมาก โดยสามารถพิจารณาได้ผลวัดการความคลาดเคลื่อนในแต่ละช่วงความถี่ระหว่างไมโครโฟน NTi รุ่น 2230 และ 4621 ตามรูปด้านล่าง 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า